

25 ก.ค.ยาว 2 นาที
ในปี 2024 การส่งออกกาแฟและโกโก้ของเปรูมีมูลค่ารวมเกินกว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกเกือบ 600,000 เฮกตาร์ และเกี่ยวข้องกับบริษัทมากกว่า 350 แห่ง อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมนี้กำลังเผชิญกับแรงกดดันเร่งด่วน ทั้งจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และระเบียบใหม่ของสหภาพยุโรปว่าด้วยผลิตภัณฑ์ปลอดการตัดไม้ทำลายป่า (EUDR) ซึ่งกำหนดให้ต้องมีระบบตรวจสอบย้อนกลับและความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานสินค้าโภคภัณฑ์อย่างเข้มงวด
การประชุมระดับชาติครั้งที่ 27 ด้านกาแฟและโกโก้ในกรุงลิมา เป็นเวทีสำคัญในการหารือแนวทางรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ KOLTIVA ผู้นำด้านโซลูชันการตรวจสอบย้อนกลับทางการเกษตร ได้เข้าร่วมงานเพื่อแบ่งปันเครื่องมือดิจิทัลที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ระบบแผนที่พิกัดภูมิศาสตร์ ไปจนถึงระบบข้อมูลแบบเรียลไทม์ ที่ช่วยให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของ EUDR และส่งเสริมการจัดหาที่มีจริยธรรม
โซลูชันดิจิทัลของ KOLTIVA ช่วยให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งต้นน้ำและปลายน้ำสามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างราบรื่น รักษาความสอดคล้องกับกฎระเบียบ และเป็นผู้นำในอนาคตของการค้าที่ยั่งยืน
ช่วงเวลาสำคัญของอุตสาหกรรมกาแฟและโกโก้เปรู
ความเชี่ยวชาญของ KOLTIVA: ขับเคลื่อนละตินอเมริกาด้วยการตรวจสอบย้อนกลับดิจิทัล
พบกับผู้แทนของเรา: พาเมลา อากีโน ผู้ผลักดันการเปลี่ยนแปลงทั่วละตินอเมริกา
จากความท้าทายสู่โอกาส: แผนสู่การเปลี่ยนแปลง
ความร่วมมือหลายภาคส่วนคือกุญแจสำคัญ
พบกับเราที่การประชุมระดับชาติครั้งที่ 27
ภาคอุตสาหกรรมกาแฟและโกโก้ของเปรูกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ ท่ามกลางการบังคับใช้ระเบียบของสหภาพยุโรปว่าด้วยผลิตภัณฑ์ปลอดการตัดไม้ทำลายป่า (EUDR) ความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความต้องการความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานที่เพิ่มขึ้นจากทั่วโลก ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมต่างแสวงหาแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืน มีนวัตกรรม และครอบคลุมทุกภาคส่วน การประชุมระดับชาติด้านกาแฟและโกโก้ครั้งที่ 27 ซึ่งจัดโดยหอการค้ากาแฟและโกโก้เปรู (Cámara Peruana del Café y Cacao - CPCC) ในวันที่ 29–30 พฤษภาคม ที่กรุงลิมา จึงเป็นเวทีสำคัญของการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้
KOLTIVA ภูมิใจที่ได้เข้าร่วมงานในปีนี้ พร้อมนำเสนอความเชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบย้อนกลับดิจิทัลแบบครบวงจร การปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความยั่งยืน และการสนับสนุนเกษตรกรรายย่อย ด้วยการดำเนินงานที่ครอบคลุมทั้งละตินอเมริกาและภูมิภาคเกษตรกรรมสำคัญอื่น ๆ KOLTIVA มุ่งมั่นสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ครอบคลุม ยืดหยุ่น และโปร่งใส สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และส่งเสริมการเติบโตในระยะยาวอย่างแท้จริง
ในปี 2024 เปรูส่งออกกาแฟและโกโก้รวมมูลค่ากว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีบริษัทและสหกรณ์มากกว่า 350 แห่งที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 600,000 เฮกตาร์ แต่ภาคอุตสาหกรรมนี้กำลังเผชิญแรงกดดันอย่างไม่เคยมีมาก่อนให้ต้องปรับตัวและพัฒนา (America-retail: 2025)
ระเบียบใหม่ของสหภาพยุโรปมีเป้าหมายเพื่อลดการตัดไม้ทำลายป่าในห่วงโซ่อุปทานสินค้าโภคภัณฑ์ โดยกำหนดให้ผลิตภัณฑ์ เช่น กาแฟและโกโก้ ที่จะเข้าสู่ตลาดยุโรปต้องมีข้อมูลตรวจสอบย้อนกลับครบถ้วน รวมถึงพิกัดแปลงเกษตรและความโปร่งใสตลอดห่วงโซ่ ซึ่งผู้ประกอบการในเปรูหลายรายยังไม่สามารถดำเนินการได้ครบถ้วน
นอกจากนี้ ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โรคพืช และต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ก็กำลังคุกคามความมั่นคงของเกษตรกรรายย่อยและความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออก การประชุมครั้งนี้จึงเป็นเวทีสำคัญในการหาแนวทางรับมือกับบริบทการค้าระดับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
การเข้าร่วมประชุมของ KOLTIVA สะท้อนถึงความมุ่งมั่นต่อการสนับสนุนภาคเกษตรกรรมในละตินอเมริกาและภูมิภาคอื่น ๆ KOLTIVA ได้พัฒนาระบบนิเวศดิจิทัลให้กับทุกฝ่ายในห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่เกษตรกรไปจนถึงผู้ซื้อข้ามชาติ เพื่อส่งเสริมการจัดหาที่มีจริยธรรมและการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความยั่งยืน
ด้วยโซลูชันที่หลากหลาย เช่น การลงทะเบียนเกษตรกร แผนที่พิกัดภูมิศาสตร์ ระบบติดตามห่วงโซ่อุปทาน และการรายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์ KOLTIVA สนับสนุนให้ผู้ผลิตและผู้ส่งออกสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดของ EUDR ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมยกระดับผลิตภาพและความยั่งยืนในระยะยาว
ในเปรู เช่นเดียวกับในประเทศผู้ผลิตกาแฟและโกโก้อื่น ๆ ความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็น เมื่อผู้นำเข้าในยุโรปและผู้บริโภคทั่วโลกเรียกร้องความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น บริษัทต่าง ๆ จึงต้องแสดงให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์ของตนมาจากแหล่งใด ใครเป็นผู้ผลิต และอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมแบบใด ซึ่ง KOLTIVA สามารถเชื่อมโยงทุกฝ่ายให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พาเมลา อากีโน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความสำเร็จลูกค้าประจำละตินอเมริกา เป็นตัวแทนของ KOLTIVA ในการประชุมครั้งนี้ ด้วยประสบการณ์ด้านการบริหารโครงการ การมีส่วนร่วมกับลูกค้า และการสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่ชนบท เป้าหมายของเธอคือ การเสริมสร้างความเข้าใจด้าน EUDR และแสดงให้เห็นว่าการใช้เทคโนโลยีสามารถเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ผลิตในเปรูได้อย่างไร
เธอจะร่วมเสวนากับผู้นำในอุตสาหกรรม ผู้ส่งออก สหกรณ์ และผู้ซื้อจากต่างประเทศ เกี่ยวกับทิศทางของการค้ากาแฟและโกโก้ และจะแบ่งปันกรณีศึกษาความสำเร็จจากหลายประเทศในละตินอเมริกา
“การประชุมนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของภูมิภาค” พาเมลากล่าว “เป็นโอกาสที่เราจะกำหนดทิศทางร่วมกัน แลกเปลี่ยนนวัตกรรม และสร้างแรงผลักดันเพื่อการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน ที่ KOLTIVA เราเชื่อในเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อคนทุกคนในห่วงโซ่อุปทาน”
KOLTIVA มองว่าการประชุมครั้งนี้ไม่ใช่แค่งานประชุม แต่คือจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมเกษตรกรรมสู่ความโปร่งใส ยืดหยุ่น และครอบคลุม แม้จะมีอุปสรรค ทั้งระบบข้อมูลที่กระจัดกระจาย ความรู้ของเกษตรกรที่ยังไม่ทั่วถึง และโครงสร้างพื้นฐานที่จำกัด แต่ก็มีโอกาสรออยู่เช่นกัน
ระบบตรวจสอบย้อนกลับดิจิทัลเปิดประตูสู่ราคาที่เป็นธรรม การเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น และความยั่งยืนระยะยาว โดยเฉพาะในประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์อย่างเปรู
นอกจากนี้ การหันมาใช้สินค้าโภคภัณฑ์ที่ปลอดการตัดไม้ทำลายป่า ไม่ใช่แค่การปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่คือพันธกิจด้านจริยธรรม ท่ามกลางภัยคุกคามจากสภาพภูมิอากาศ ภาคเกษตรจะต้องเป็นผู้ขับเคลื่อนการฟื้นฟูธรรมชาติ ไม่ใช่ทำลาย KOLTIVA พร้อมสนับสนุนให้ทุกฝ่ายสามารถวัด จัดการ และลดความเสี่ยงจากการตัดไม้ทำลายป่า พร้อมส่งเสริมเกษตรกรรมเชิงฟื้นฟูและรูปแบบการจัดหาที่ครอบคลุม
ความสำเร็จต้องเกิดจากการประสานงานระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการเงิน และภาคประชาสังคม KOLTIVA ยังคงสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อให้ระบบตรวจสอบย้อนกลับสามารถนำไปใช้ได้จริง ขยายผล และปรับให้เหมาะกับบริบทของแต่ละพื้นที่
แนวทางของเรายึดโยงกับพื้นที่จริง เราทำงานเคียงข้างเกษตรกร สหกรณ์ ผู้ส่งออก และผู้ซื้อ ด้วยการฝึกอบรม เสริมสร้างศักยภาพ และการสนับสนุนด้านเทคนิค เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้
KOLTIVA ภูมิใจที่ได้ยืนเคียงข้างชุมชนกาแฟและโกโก้ของเปรูและละตินอเมริกา เรามุ่งมั่นในการมอบเครื่องมือ ความรู้ และการสนับสนุนที่จำเป็นในการแปรเปลี่ยนความท้าทายในวันนี้ให้กลายเป็นโอกาสของวันพรุ่งนี้
เราขอเชิญชวนผู้นำในอุตสาหกรรม สหกรณ์ ผู้ส่งออก องค์กรพัฒนาเอกชน และผู้กำหนดนโยบาย ร่วมพูดคุย สำรวจทางออก และลงมือร่วมกันสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ตรวจสอบย้อนกลับได้ และเท่าเทียม
📅 วันที่ 29–30 พฤษภาคม 2025
📌 โรงแรมโฆเซ่ อันโตนิโอ เขตมิราฟลอเรส กรุงลิมา ประเทศเปรู
💼 ร่วมพบกับ พาเมลา อากีโน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความสำเร็จลูกค้าภูมิภาคละตินอเมริกา
🌐 ติดต่อเราได้ที่ www.koltiva.com/contact
มาร่วมกันกำหนดอนาคตของกาแฟและโกโก้—ไปด้วยกัน
Author : Gusi Ayu Putri Chandrika Sari, Sustainable Communications Enthusiast
Subject Matter Expert : Pamela Aquino, Customer Success Officer
About Our Expert :
Pamela Aquino is a Customer Success Officer at KOLTIVA, specializing in guiding global clients through the successful adoption of end-to-end traceability and sustainability solutions. With deep expertise in supply chain transparency and customer engagement, she plays a key role in helping companies navigate complex compliance landscapes—such as the EUDR—while unlocking long-term value through Koltiva’s integrated technologies.
Comentarios